เก็บตกประเด็นร้อนหลังเกม ยูโรปาลีก ปีศาจแดง ลิ่วเข้าชิง ปะทะ เรือดำน้ำ
34 ครั้ง เป็นตัวเลขของจังหวะทำประตูจากทั้งคู่กลุ่มรวมกัน ซึ่งแบ่งเป็นฝั่ง โรมา 21 ครั้งเข้ากรอบ 12 เป็น 3 ประตู รวมทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด 13 ครั้งเข้ากรอบ 5 เป็น 2 ประตู
ซึ่งขั้นแรกกลุ่มเยี่ยมมาย้ำตั้งรับรวมทั้งรอสวนกลับเด่นชัด ส่วนเจ้าถิ่นเป็นข้างดาหน้าบุกเข้าใส่ จนถึง ปีศาจแดง ออกนำจากจังหวะตอบโต้กลับ ทำให้ช่วงหลัง ทัพหมาป่ากรุงโรม ไม่มีอะไรจะเสีย เดินหน้าบุกเต็มสูบ
ซึ่งนั้นทำให้เกมค่อนข้างจะเปิดแลกกันอย่างสนุกสนาน ด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด เองได้โอกาสตอบโต้กลับหลายครั้ง ชนิดที่มีต่างข้างต่างมีลุ้นกันแทบทุกนาทีเลยทีเดียวคงจะจำต้องพูดว่าถ้าวันนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้ ดาบิด เด เคอา ที่องค์ลงอย่างที่มองเห็น ปีศาจแดง อาจไม่ได้เข้าชิงก็เป็นได้ เพราะเหตุว่าตั้งแต่ช่วงต้นเกมที่เจ้าตัวจำต้องออกแรงเซฟงามๆหลายต่อหลายครั้ง
แถมในช่วงช่วงหลังที่ โรมา ได้ทางออกนำ 2-1 เป็นที่เป็นระเบียบ ราวกับว่าเจ้าถิ่นจะมีแรงฮึดขึ้นมาอีกที ซึ่งก็ได้นายด่านเลือดกระทิงดุรายนี้นี่แหละ ที่ไม่ยอมรับลูกยิงแบบสม่ำเสมอที่ถั่งโถมเข้ามารัวๆยิ่งกว่าปินกลได้แบบปาฏิหาริย์ จนถึงเรียกได้ว่าเอารางวัล แมน ออฟ เดอะแมทช์ ไปได้เลยแต่ว่าก็อย่าลืมขอบคุณมากบรรดาแนวรับที่สามัคคีกันปั้นให้ เด เคอา ได้โอกาสงัดฟอร์มเก่งออกมาให้แฟนบอลได้มองเห็นกันแบบเต็มสองตาอีกทีในช่วงกลางคืนนี้คู่ชิงของ ปีศาจแดง ในปีนี้นั่นเป็น บียาร์เรอัล ที่ยัดเสมอ อาร์เซนอล 0-0 ก่อนจะชนะไปด้วยสกอร์รวม 2-1 ในที่สุด โดยสถิติก่อนหน้านี้ 4 นัดที่พบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ใน แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มเมื่อปี 2005 รวมทั้ง 2008 ออกมาด้วยผลเสมอ 0-0 ทั้งยัง 4 เกม
โดนในตอนนี้ ทัพเรือดำน้ำ จัดว่ามีขุมกำลังที่ไม่ธรรมดานำโดย เกราร์ด โมเรโน รวมทั้ง ปาโก อัลกาเซ สองศูนย์หน้าชาวประเทศสเปนที่ยิงรวมกันแล้วถึง 38 ประตูในปีนี้ แถมยังมี เปา ตอร์เรส ที่เคยตกเป็นข่าวสารกับ แมนฯ ยูไนเต็ด รอคุมแนวหลัง
ที่สำคัญเป็นมี อูไน เอเมรี ผู้ฝึกสอนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าที่ถ้วยรายการนี้ ยืนยันด้วยสถิติที่ครอบครองแชมป์มาสูงที่สุดในบรรดาผู้จัดการทีมทุกคนบนโลกใบนี้อีกด้วย